1) ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง โดยประยุกต์เป็นการปลูกไม้ 7 ระดับ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมดุล คือ
- ไม้หน้าดิน เป็นพืชผักสวนครัว เช่น พริก กระเพรา โหระพา เป็นต้น
- ไม้หัว เป็นพืชที่อยู่ใต้ดิน เช่น ขิง ข่า กระชาย เผือก มัน เป็นต้น
- ไม้เถา เช่น ตำลึง มะระ ถั่วฝักยาว เป็นต้น
- ไม้น้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด บัว เป็นต้น
- ไม้ชั้นล่าง เป็นพืชที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป เช่น มะนาว มะละกอ กล้วย เป็นต้น
- ไม้ชั้นกลาง เป็นพืชที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นไม้ผล เช่น มะม่วง ลำไย กระท้อนเป็นต้น
- ไม้ชั้นสูง เป็นพืชที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไปจึงจะใช้เป็นประโยชน์ได้ เป็นไม้ยืนต้นเช่น ประดู่ มะค่า ยางนา สัก ถือได้ว่าเป็นไม้ที่สร้างบำเหน็จ บำนาญมรดก
- โรงงานอาหารสัตว์สีเขียว
- โรงปุ๋ยอินทรีย์สีเขียว
- โรงงานยาสมุนไพรสีเขียว
- โรงงานพลังงานสีเขียว โดยทั้ง 4 โรงงานสามารถดำเนินการได้ในแปลงเกษตรของตนเองได้ทุกพื้นที่เพื่อทำให้ลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร
สำหรับไม้ระดับที่ 1 - 3 อยู่ในระดับบน (ไม้ชั้นล่าง ไม้ชั้นกลาง ไม้ชั้นสูง) สามารถสร้างรายได้จาก ผลไม้และเป็นบำนาญให้กับชีวิตในอนาคต โดยปลูกไว้ 500 ต้นต่อไร่ เมื่อต้นไม้อายุ 15 ปีขึ้นไป ทำให้เกิดรายได้ไร่ละ 5 ล้านบาท รวมถึงทำให้ได้ป่าอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเราเรียกว่า ธนาคารต้นไม้ สามารถลดต้นทุนการผลิตเพราะไม่ต้องซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา อาหารสัตว์และพลังงาน รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการเลี้ยงสัตว์โดยไม่ใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปมาใช้อาหารจากธรรมชาติ ดังนี้
- เลี้ยงหมูด้วย หญ้า พืช ผัก ผลไม้
- เลี้ยงเป็ด/ ไก่/ ห่าน ด้วยข้าวเปลือก ผัก ผลไม้
- เลี้ยงปลา และกุ้ง ด้วยการหมักด้วยจุลินทรีย์ จากผลไม้ มูลสัตว์และหอยเชอรี่
กระบวนการจัดการธนาคารต้นไม้ ทำให้เกิดการเกษตรผสมผสานบนดินอย่างสมดุลแล้วยังเกิดระบบเกษตรสมดุลในน้ำ บ่อ และสระทำให้เกิดระบบเกษตรผสมผสาน คือ การเลี้ยงกุ้ง ปลานิล ปลากินพืชและปลูกข้าวในบ่อเดียวกัน ทำให้เกิดความสมดุลอย่างดีในน้ำ และสัตว์น้ำสามารถอยู่รวมกันและเกื้อกูลกันได้อย่างลงตัวโดยใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2) การเกษตรทฤษฎีใหม่ สามารถพัฒนาต่อยอดมาสู่การกำหนดราคาผลผลิตทางการเกษตรและสามารถจัดการระบบตลาดได้ด้วยตนเอง
เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทางการแก้ปัญหาราคากับตลาดได้ เพราะจัดการอย่างสมดุลในแปลงโดยปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ได้อย่างพอดีกัน มีผัก ผลไม้ เพื่อการบริโภคเหลือจึงทำเป็นอาหารสัตว์ (เป็นโรงงานอาหารสัตว์สีเขียว) หรือนำมาทำปุ๋ย สำหรับสัตว์สามารถจัดการได้โดยเมื่อราคาถูกจะไม่ขาย รอเวลารอภาวะตลาดให้ราคาจะขึ้นเราจึงขายสัตว์เพราะไม่มีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้รอราคาที่เหมาะสมได้
ที่มา : ศูนย์การเรียนรู้เกษตรสมดุล-สวนธงไชยไร่ทักสม จังหวัดนครนายก
กลับสู่หน้า "ไร่ชญาทิพ"
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น